‘ประยุทธ์’ ปลื้ม โพลเผย ประชาชน 82% หนุนบริหารประเทศต่อ พาไทยหลุดจากรัฐราชการ

‘ประยุทธ์’ ปลื้ม โพลเผย ประชาชน 82% หนุนบริหารประเทศต่อ พาไทยหลุดจากรัฐราชการ

ประยุทธ์ ได้ปลื้มอีกแล้ว หลังจากที่ โพล เผยว่า ประชาชนหนุน ประยุทธ์ บริหารประเทศกว่าร้อยละ 82 ให้เหตุผลกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี จากสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ระหว่างวันที่ 10 – 15 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0 ยังต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ถือธงนำ 

เพราะกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ การบริหารงานใหม่ ๆ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง หลุดออกจากการบริหารประเทศแบบรัฐราชการ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.3 ยังระบุว่า ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ที่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เลือกประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ และการเกรงใจทางการเมือง รวมทั้งการเกี้ยเซียะผลประโยชน์กับข้าราชการ ซึ่งส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.9 ระบุด้วยว่า ในเวลานี้ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์

นายธนกร กล่าวว่า ที่สำคัญผลโพลยังชี้ให้เห็นด้วยว่า เสียงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.3 นั้น ทราบถึงการบริหารประเทศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า นายกรัฐมนตรีกล้าที่จะออกมารับผิดชอบทุกเรื่องวิกฤตในนามของรัฐบาล แม้ว่าจะเป็นเพราะหน่วยงานในหน้าที่อาจจะปล่อยปละละเลยจนมีการสะสมปัญหา ซึ่งเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะยังคงทำงานหนักเพื่อประชาชน เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนเพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันโดยไม่สนเกมส์การเมือง จะขอเดินหน้าทำงานเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเท่านั้น

“ผลโพลสะท้อนเสียงประชาชนได้เป็นอย่างดีว่า วันนี้ประชาชนยังคงเชื่อมั่น ยังคงให้กำลังใจ และยังไม่เห็นว่าจะมีใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ความจริงใจในการแก้ปัญหาวิกฤตของชาติบ้านเมืองและความเดือดร้อนของประชาชน

ซึ่งท่านนายกฯ มุ่งมั่นและทุ่มเทในการแก้ปัญหา มองถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาอย่างยาวนานนั้น ผมยังนึกไม่ออกว่า จะมีผู้นำคนไหนอีกในขณะนี้ ที่เด็ดขาดและกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งได้มากไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์” นายธนกร กล่าว

‘ปารีณา’ ชี้แจง ‘ซื้อเก่งกว่า’ หมายถึงซื้อใจเก่งกว่า

ปารีณา ออกโรงชี้แจงว่ากรณีที่ตนโพสต์ข้อความว่า ประชาธิปัตย์ ซื้อเก่งกว่า ไม่ได้หมายถึงซื้อเสียงแต่เป็นการซื้อใจประชาชน จากกรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาโพสต์ข้อความหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งซ่อมชุมพรและสงขลา ว่า “#เฉลย เหตุผลเดียว ประชาธิปัตย์ ชนะเลือกตั้งซ่อม 2 เขต คือ ซื้อเก่งกว่า ค่ะ #การเมืองไทย #ประชาธิปไตย1000บาด” จนทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองพรรคนั้น

ล่าสุด น.ส.ปารีณา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในกลุ่มไลน์ “คุยกับปารีณา” กรณี โพสต์ถึงเรื่อง ซื้อเก่งกว่า แล้วลบโพสต์ ก่อนมาแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์

ระบุว่า “ขออนุญาตชี้แจงว่า ได้โพสต์ว่าซื้อเก่งกว่าจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการซื้อเสียง และไม่มีประโยคใดเขียนว่า ซื้อเสียง โดยที่โพสต์ไปนั้นเป็นการชื่นชมประชาธิปัตย์ว่า ซื้อใจประชาชนเก่งกว่าพลังประชารัฐเท่านั้น การจะซื้อใจคนได้ต้องประกอบด้วยความดี และต่างๆ ไม่ใช่เงินทอง”

ส่วนเรื่องที่ นายราเมศจะดำเนินคดี นายราเมศเป็นนักกฎหมาย และมักใช้กฎหมายข่มขู่ตนเองลักษณะแบบนี้หลายครั้งหลายหนแล้ว แต่จนปัจจุบันที่เคยพูดว่าจะดำเนินคดีตนเองมาในอดีตทั้งหมดยังคงไม่มีการดำเนินคดี และขอให้สื่อมวลชนจบเรื่องดังกล่าวได้แล้ว เพราะเลือกตั้งจบแล้ว เกมแล้ว วันนี้ต้องเดินหน้ากันต่อได้แล้ว

อนุทิน เผย สธ. เตรียมเสนอที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 20 ม.ค. ลด ระดับเตือนภัยโควิด เหลือระดับ 3 พร้อมปรับโซนสีโควิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงมติที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 20 ม.ค. นี้

โดย สธ. จะเสนอสี่ประเด็นได้แก่ 1.การปรับพื้นที่สถานการณ์ย่อยหรือพื้นที่สีจังหวัดให้ลดลงในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่มีความเสี่ยงมาก ซึ่งถ้าสถานการณ์ไม่มีอะไรรุนแรงเลวร้ายลง ก็ต้องปรับพื้นที่สีให้มีอิสระมากขึ้น ผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น

2.เตรียมเปิดทะเบียนเข้าประเทศระบบ Test&Go ใน ก.พ.นี้ หากกรมควบคุมโรคประเมินแล้วว่า สถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง ซึ่งเรายังมีเวลา 13 วันในการดูสถานการณ์ โดยหลักเกณฑ์และประเทศที่จะได้รับอนุญาตก็จะดูตามสถานการณ์

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป